จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ขอมไม่ใช่ทวารวดี ทวารวดีไม่ใช่ขอม (ตอนที่ ๑)

ขอมกับทวาฯใครมาก่อนกัน
ยุคประวัติศาสตร์ที่เก่าที่สุดในประเทศไทยอาจกล่าวได้ว่ามาพร้อมๆ กับพระพุทธศาสนาเลยก็ว่าได้ กล่าวคือ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๕๐๐ เป็นต้นมา การติดต่อระหว่างบ้านเมืองในดินแดนประเทศไทยกับดินแดนอินเดียเกิดขึ้นอย่างเข้มข้น การติดต่อนี้อาจเป็นการติดต่อค้าขายเพียงอย่างเดียวในช่วงแรก เมื่อพ่อค้าชำนาญการเดินเรือแล้วจึงค่อยนำศิลปะและวัฒนธรรมเข้ามาเผยแพร่ในดินแดนประเทศไทยด้วย ศิลปะในพระพุทธศาสนาหรือที่เราเรียกกันว่าพระพุทธรูปในยุคแรกเป็นการนำเข้ามาโดยพวกพ่อค้าเดินเรือ มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไปสามารถพกติดตัวได้ ศิลปะของพระพุทธรูปในยุคนี้เป็นศิลปะแบบคุปตะ และต่อมาในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๖ ศิลปะแบบอมราวดี พระพุทธรูปในยุคแรกนี้ส่วนมากแล้วจะเป็นปางแสดงธรรมหรือไม่ก็เป็นปางประทานพร 
พระพุทธรูปศิลปะคุปตะที่นำเข้ามาในยุคแรก
ศิลปะแบบอมราวดีที่นำเข้ามาหลังแบบคุปตะ

ซึ่งนอกจากพระพุทธรูปแล้วตัวอักษรก็เป็นหลักฐานที่สำคัญที่ทำให้เราทราบถึงการรับอิทธิพลทางศิลปวัฒนธรรมจากอินเดีย (รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง : ๒๕๕๖ , ๖-๑๖)อักษรที่ดินแดนประเทศไทยรับจากอินเดียคืออักษรปัลลวะ หลักจากนั้นดินแดนในประเทศไทยจึงเริ่มรับเอาพุทธศาสนาเข้ามาผสานกับความเชื่อเดิมคือบูชาผี จนสามารถพัฒนาเป็นรูปแบบของเมืองได้อย่างเต็มรูปแบบในรัฐที่ชื่อว่าทวารวดี
          ทวารวดีอาจเกิดขึ้นในชวงพุทธศตวรรษที่ 9- 10 หลักฐานที่สามารถยืนยันไดนั้นพบในชวงพุทธศตวรรษที่ 12 เปนหลักฐานทางศิลปกรรมและจารึก ซึ่งชวงนี้ศิลปกรรมสวนใหญเปนของที่นําเขามาจากผูเผยแพรศาสนาหรือการคา โดยพบพระพุทธรูปกลุมหนึ่งเปนพระพุทธรูปองคเล็กๆ เราเรียกวาพระพุทธรูปรุนเกาตอมามีการเผยแพรพุทธศาสนาเราจึงเริ่มมีรูปแบบงานศิลปกรรมของเราเองคือ ทวารวดี ซึ่งตรงกับราชวงศคุปตะของอินเดียและตะวันออกของอินเดียทางอมราวดี ทางตอนใตของอินเดียสูลังกา บางทีผานกวางตุงเป็นเอกสารที่กลาวในเอกสารของพระภิกษุอี้จิง หรืออี้ชิง ที่เดินทางไปจาริกศาสนาในอินเดียและเดินทางกลับทางสุมาตรา กลาววาศาสนาพุทธมหายานในสุมาตรารุงเรืองมากและมีการติดตอ
คาขายและรับอิทธิพลอินเดียเปนระยะๆ กอนพุทธศาสนาเขามาสังคมของไทยเปนชวงกอนประวัติศาสตรอยูแบบดั่งเดิมหาของปา ตัวที่กําหนดการรับอิทธิพลภายนอกสิ่งหนึ่ง คือ วัฒนธรรมการฝงศพ แตพอรับอิทธิพลจากอินเดียจึงเริ่มมีการเผาศพ ตัวอยางชิ้นแรกภาพเขียนสีที่ผาแตมเปนศิลปกรรมในชวงกอนประวัติศาสตร ในการศึกษาทางดานประวัติศาสตรเดิมจะเริ่มเมื่อมีการจารึก แลวอานออกเราถือเปนชวงประวัติศาสตร อักษรที่เกาแก่ที่สุดพบทางภาค ใตคือ อักษรปาลวะภายหลังชาวพื้นเมืองรูจักเขียนตัวอักษรใชเองแตไม่ใชอักษรปาลาวะ เราจึงเรียก อักษรหลังปาลาวะพบในชวงพุทธศตวรรษที่ 1214 และเปลี่ยนไปเปนอักษรมอญ เปนอักษรขอมและในสมัยพอขุนรามคําแหงก็นําอักษรมอญและขอมมาผสมกันเปนอักษรไทย ชื่อทวารวดีมาจากคําวา ทวารวติในเอกสารจีนเรียก โถโลโปตีบันทึกไวตั้งแตรุนพระถังซําจั๋ง อาณาจักรโถโลโปตี อยูระหวาอาณาจักรศรีเกษตร (พมา) และอิสานปุระ (เขมร) ศาสตราจารยยอรช เซเดย พบเหรียญเงินที่มีจารึก วา ศรีทวารวติ ศวรปุณยะแปลวาบุญกุศลของพระราชาแหงทวารวดี นาจะมีอาณาจักรและมีกษัตริยปกครอง ศูนยกลางอยูทางภาคกลางของประเทศไทย นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เลื่อยไปจนถึงลําพูน สวนสายตะวันออกชลบุรี บุรีรัมยจนถึงอีสานเหนือเปนดินแดนที่แพรหลายใหญที่สุด (ศักดิ์ชัย สายสิงห : เอกสาร PDF)
          ในช่วงปลายของศตวรรษที่ 16 อำนาจของขอม ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองพระนคร (อยู่ในประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) ได้ขยายอำนาจมายังบริเวณปากแม่น้ำโขง  กัมพูชา  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของไทยประกอบกับการเสื่อมของการปกครองแบบทวารวดี  และสืบอำนาจต่อจากอาณาจักรเจนละอาณาจักรขอมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก โดยเฉพาะในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗  พระองค์โปรดให้สร้าง บ้านมีไฟหรือที่พักคนเดินทาง ซึ่งก่อด้วยศิลา และจุดไฟไว้ตลอด
กู่สั้นตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม อโรคยาศาลาอีกแห่งหนึ่งที่มีการค้นพบ

 ศาสตราจารย์ หลุยส์ ฟิโนต์ ผู้อำนวยการคนแรกของสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบูรพาทิศ เรียกอาคารแบบนี้ว่า ธรรมศาลาจารึกที่ปราสาทพระขรรค์ กล่าวถึงที่พักคนเดินทางว่ามีจำนวน 121 แห่ง อยู่ตามทางเดินทั่วราชอาณาจักร และตามทางเดินไปเมืองต่างๆ ในจำนวนนั้น มี 17 แห่งอยู่ระหว่างการเดินจากเมืองพระนครไปยังเมืองพิมาย ซึ่งศาสตรจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล พบว่าที่พักคนเดินทางเท่าที่ค้นพบแล้วมี 7 แห่ง แต่ละแห่งห่างกันประมาณ 1215 กิโลเมตร อีกหลายแห่งจารึกปราสาทพระขรรค์ระบุอีกว่า มีการสร้างโรงพยาบาล หรือที่จารึกเรียกว่า อโรคยาศาลาจำนวน 102 แห่ง กระจายอยู่ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งมีส่วนหนึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย (วิกิพีเดีย) อาณาจักรขอมรับวัฒนธรรมจากอินเดีย  มีการปกครองแบบเทวราช(ปกครองแบบรวมศูนย์แตกต่างกับทวารวดี เนื่องจากทวารวดีปกครองแบบกระจายอำนาจ)  และใช้ระบบจตุสดมภ์  คือ  เวียง วัง คลัง นา  นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและพระพุทธศาสนานิกายมหายาน  มีการสร้างเทวรูปและปราสาทหิน  ที่สำคัญคือนครวัด    นครธม  ส่วนในดินแดนไทยมีศาสนสถานที่ได้รับอิทธิพลเขมรอยู่ทั่วไป  เช่น  ปราสาทหิน    พิมายที่จังหวัดนครราชสีมา  ปราสาทหินพนมรุ้งที่จังหวัดบุรีรัมย์และพระปรางค์สามยอดที่จังหวัดลพบุรี  เป็นต้น (เว็ปไซด์ทรูปลูกปัญญา)
          จากข้อมูลข้างต้นทำให้เราทราบว่าแน่นอนคืออาณาจักรทวารวดีย่อมเกิดก่อนอาณาจักรขอมแน่นอน ดังนั้นศิลปะของทั้งสองอาณาจักรย่อมมีความแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะได้กล่าวในตอนต่อไป     

      โดย  อธิคม วงษ์นาง นิสิตระดับปริญญาโทสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม